หะดีษ ท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวสั่งเสียในการคุตบะห์ครั้งสุดท้ายว่า
“ ฉันได้ทิ้งไว้แก่พวกเจ้า หากพวกเจ้าได้ยึดถือ หรือได้ปฏิบัติตามมันทั้งสอง พวกเจ้าจะไม่มีหลงผิดอย่างแน่นอน
นั่นคือคำภีร์ของอัลลอฮฺ และซุนนะฮ์ (แบบฉบับ)ของฉัน ”
ฮากิมและบัยฮากี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า ใครที่ยึดอัลกุรอานเป็นทางนำ และปฏิบัติตามแนวทาง(ซุนนะห์)ของท่านนบี เขาจะไม่มีวันหลงทางในการดำเนินชีวิต แต่ถ้าเมื่อใดที่ละทิ้งหนึ่งในสองสิ่งนี้ แน่นอนว่าเขาได้ตกเป็นเหยื่อของชัยฏอน (มารร้าย) และนัฟซู( อารมณ์ใฝ่ต่ำ) แล้วอย่างแน่นอน และถ้าเขาไม่อยากหลงทาง เขาก็ต้องกลับมายึดถืออัลกุรอานและซุนนะห์เหมือนเดิม ก็ฝากพี่น้องไว้ว่า อัลกุรอานคือทางนำที่จะนำทางเราไปสู้จุดหมาย และซุนนะห์คือวิธีปฏิบัติที่จะทำให้เราไปสู่จุดหมายด้วยความปลอดภัย ขอแค่เรายึดมั่นในสองสิ่งนี้ เราจะไปถึงจุดหมายปลายทางที่อัลลอฮ.ทรงจัดเตรียมสถานที่อันบรมสุข ไว้ให้กับบ่าวของพระองค์ทุกคนน่ะครับ อินชาอัลลอฮ....
..สิ่งที่กึกก้องในหัวคือคำสอน...ของครู ....สิ่งที่ถูกกำหนด ไม่มีใครหนีมันได้ ......สิ่งที่ผมจะทำให้ครู คือดุอาร์ และ เผยแพร่ความดีที่ครูทำมา. บน Blog เล็กๆ เพื่อรวบรวมความดีของท่าน ....
Wednesday, 31 October 2018
“ ฉันได้ทิ้งไว้แก่พวกเจ้า หากพวกเจ้าได้ยึดถือ หรือได้ปฏิบัติตามมันทั้งสอง พวกเจ้าจะไม่มีหลงผิดอย่างแน่นอน นั่นคือคำภีร์ของอัลลอฮฺ และซุนนะฮ์ (แบบฉบับ)ของฉัน ”
พวกเจ้าจงตักเตือนสตรี(ด้วยดี) แท้จริงสตรีบังเกิดขึ้นจากกระดูกซี่โครง ถ้าเจ้างอซี่โครงก็จะยิ่งงอ ถ้าเจ้าทำให้มันตรงก็จะหัก ถ้าเจ้าทิ้งไว้ก็จะงอ ดังนั้นจงตักเตือนสตรี(ด้วยดี)
หะดีษ เล่าจาก อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิญัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านร่อซูล ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“ พวกเจ้าจงตักเตือนสตรี(ด้วยดี) แท้จริงสตรีบังเกิดขึ้นจากกระดูกซี่โครง ถ้าเจ้างอซี่โครงก็จะยิ่งงอ ถ้าเจ้าทำให้มันตรงก็จะหัก ถ้าเจ้าทิ้งไว้ก็จะงอ ดังนั้นจงตักเตือนสตรี(ด้วยดี) ”
บุคอรี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเรา.ห้รู้ว่า อัลลอฮ.ทรงสร้างผู้หญิงให้มาเป็นคู่ครองของผู้ชาย ในการสร้างผู้หญิงพระองค์ก็สร้างมาจากซึ่โครงด้านซ้ายของท่านนบีอาดัม อะลัยฮิสลาม และเนื้อคู่ของแต่ละคนก็จะไม่มีการสลับกันได้อย่างเด็ดขาด เพราะอัลลอฮ.ได้ทรงกำหนดไว้ แล้วเช่นเดียวกับริสกี(ปัจจัยยังชีพ) การใช้ชีวิตคู่จึงเป็นสิ่งสำคัญ ต่อให้เป็นเนื้อคู่กันแต่ไม่ทำความเข้าใจในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันด้วยกับศาสนา สุดท้ายก็ต้องแยกทางจากกันไปในที่สุด วิธีรักษาครอบครัวหลังจากได้คู่ครองแล้ว ฝ่ายชายต้องเข้าใจธรรมชาติที่อัลลอฮ.ทรงสร้างผู้หญิงจากซี่โครง ดังนั้นผู้หญิงจึงมีลักษณะนิสัยคล้ายกับซี่โครงคือมีความโค้งหรือเปรียบเทียบได้กับความขี้งอน ดังนั้นการง้อฝ่ายหญิงจึงเป็นหน้าที่ที่ฝ่ายชายควรต้องทำ เพราะมันเป็นการเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิง แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิดแต่ฝ่ายชายก็ต้องรักษาความเป็นครอบครัวไว้ก่อน ก็ง้อไปตามธรรมชาติ หลังจากที่เธอหายงอน ก็อธิบายเหตุผลให้เธอเข้าใจ อย่าได้พยายามดัดเธอให้ตรงหรือแข็งกร้าวกับเธอ เพราะสุดท้ายมันจะแตกหักในที่สุด เนื่องจากที่เราฝืนในธรรมชาติของผู้หญิงนั่นเอง ก็ฝากพี่น้องไว้ว่าเมื่อมีครอบครัวที่สำคัญที่สุดคือการให้อภัยต่อกัน ไม่ว่าจะขัดแย้งอะไร ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอ่อนลงก่อน อีกฝ่ายหนึ่งก็จะอ่อนลงตามไปด้วย แต่ถ้าเมื่อใดต่างแข็งกร้าวเขาใส่กันสุดท้าย ก็มีแต่ความแตกหัก ทั้งแตกหักทั้งกับครอบครัวและหัวใจของทุกฝ่ายก็จะแตกหักตามไปด้วยน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.......
Sunday, 28 October 2018
พึงระวังความหวาดระแวงสงสัย เพราะความหวาดระแวงสงสัยคือการกล่าวเท็จที่เลวร้ายที่สุด และอย่าได้สอดแนมกัน และอย่ารับฟังการพูดคุยที่ชั่วร้ายของผู้คนเกี่ยวกับเรื่องราวของผู้อื่น (นินทา) และอย่าสร้างความเป็นศัตรูระหว่างกัน
หะดีษ ท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“ พึงระวังความหวาดระแวงสงสัย เพราะความหวาดระแวงสงสัยคือการกล่าวเท็จที่เลวร้ายที่สุด และอย่าได้สอดแนมกัน และอย่ารับฟังการพูดคุยที่ชั่วร้ายของผู้คนเกี่ยวกับเรื่องราวของผู้อื่น (นินทา) และอย่าสร้างความเป็นศัตรูระหว่างกัน
แต่จงเป็นพี่น้องกัน และไม่ควรมีการเสนอตัวต่อสตรีที่พี่น้อง (มุสลิม) ของเขาได้เข้าไปเสนอตัวแล้ว ทว่าเขาควรรอจนกว่าผู้เสนอตัวคนแรกได้แต่งงานกับนางแล้ว หรือถอดถอนการเสนอตัวต่อนาง ”
บุคอรี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า ผู้ศรัทธาจะต้องคิดดีกับผู้อื่นเสมอ ไม่มองอะไรในแง่ลบ ไม่คาดการณ์ ไม่สอดส่องสอดแนม ไม่จ้องจับผิด ไม่นินทาว่าร้ายต่อกัน เมื่อมีแต่ความคิดที่ดีต่อกัน ความรักกันก็เกิดขึ้น เมื่อใดที่มีความรักต่อกันทุกอย่างก็จะพูดคุยกันอย่างเข้าใจ เพราะมีความบริสุทธิ์ใตต่อกัน แม้แต่ในเรื่องการหาคู่ครอง จะต้องไม่ไปแย่งใคร ถ้าหญิงคนนั้นมีคนหมั่นหมายอยู่แล้ว ต้องรอจนกว่าทั้งคู่จะแยกทางจากกันเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ท่านนบีสอนพวกเรา ก็ฝากพี่น้องจงมองในด้านที่ดีของผู้อื่นเถิด เมื่อใดที่เราคิดดี และมองผู้อื่นในด้านที่ดี ชีวิตของเราก็จะพบแต่สิ่งที่ดีงามน่ะครับ อินชาอัลลอฮ........
ความทุกข์ยากลำบากยังคงเกิดขึ้นกับชายและหญิงผู้ศรัทธาในร่างกาย ครอบครัวและทรัพย์สินของพวกเขาจนกระทั่งพวกเขาได้พบอัลลอฮฺโดยไม่มีบาป
หะดีษ เล่าจาก อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
"ความทุกข์ยากลำบากยังคงเกิดขึ้นกับชายและหญิงผู้ศรัทธาในร่างกาย ครอบครัวและทรัพย์สินของพวกเขาจนกระทั่งพวกเขาได้พบอัลลอฮฺโดยไม่มีบาป "
ติรฺมีซี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า อย่าได้เศร้าโศกหรือทุกข์ใจไปกับการสูญเสียบุคคลหรือสิ่งของที่เรารักเลย เพราะ อัลลอฮ.จะทรงตอบแทนให้ด้วยกับสิ่งที่ดีกว่าเสมอ สำหรับผู้ศรัทธา เพราะพระองค์ทรงต้องการทดสอบถึงความอดทนว่าเขาจะอดทนเพื่อพระองค์หรือไม่ ถ้าอดทนได้สิ่งตอบแทนที่สูงที่สุดคือสวนสวรรต์ของพระองค์ และก็รองลงมาตามระดับของความอดทน แม้จะอดทนกับความทุกข์ใจหรือกังวลใจ ถ้าเขาอดทน พระองค์ก็จะทรงปลดเปลื้องบาปของเขาไปเรื่อยๆ ถ้าทั้งชีวิตเขามีแต่ความอดทนตลอดมาไม่ว่าจะประสบกับเหตุอะไรขึ้นก็ตาม แน่นอนว่าบาปของเขาจะถูกปลดเปลื้องไปจนหมดในยามที่เขากลับไปหาพระองค์อย่างแน่นอน
ก็ฝากพี่น้องไว้ว่า ความอดทนจะตามมาด้วยกับการตอบแทนที่ดีจากอัลลอฮ.เสมอ ขอแค่เรารักษาความอดทนให้อยู่กับเราก็พอน่ะครับ อินชาอัลลอฮ. .....
Thursday, 25 October 2018
มุสลิมนั้นจะไม่ประสบกับความยากลำบาก ความเจ็บป่วย ความเศร้าโศกเสียใจ ความทรมาน ปัญหาต่างๆ หรือความไม่สบายใจที่จะประสบ แม้กระทั่งหนามที่อาจจะตำขณะที่เขาเดินทางนั้น ทั้งหมดนี้จะเป็นการทดสอบหรือลบล้างความผิดต่างๆ เป็นการชำระ ให้อภัยโทษจากความผิดต่างๆ ที่เราได้เคยกระทำในอดีต
“ มุสลิมนั้นจะไม่ประสบกับความยากลำบาก ความเจ็บป่วย ความเศร้าโศกเสียใจ ความทรมาน ปัญหาต่างๆ หรือความไม่สบายใจที่จะประสบ แม้กระทั่งหนามที่อาจจะตำขณะที่เขาเดินทางนั้น ทั้งหมดนี้จะเป็นการทดสอบหรือลบล้างความผิดต่างๆ เป็นการชำระ ให้อภัยโทษจากความผิดต่างๆ ที่เราได้เคยกระทำในอดีต ”
บุคอรี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า ทุกคนจะต้องพบกับบททดสอบ ไม่มีใครที่จะหลีกพ้นจากบททดสอบไปได้ การทดสอบมีทั้งดีและร้าย แต่ก็มีการตอบแทนที่แตกต่างกันไป การตอบแทนที่ยิ่งใหญ่จะมาพร้อมกับบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ บททดสอบที่ยิ่งใหญ่คือภัยพิบัติที่มีความสุญเสียทั้งชีวิตหรือทรัพย์สิน ใครที่อดทนและยอมรับในสิ่งที่อัลลอฮ.ทรงกำหนด เขาจะได้รับความพึงพอพระทัยจากพระองค์ และในความทุกข์โศกความเศร้าหมองในหัวใจ พระองค์จะทรงปลดเปลื้องบาปให้กับเขาไปจนกว่าหัวใจของเขาจะกลับมาปกติ
ก็ฝากพี่น้องว่า ในช่วงที่มีมรสุมเข้ามาในชีวิต มันจะดูเหมือนมืดมิดไร้ทางออก แต่ถ้าเราอดทนกับมัน มรสุมมันก็จะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป และเมื่อมรสุมออกไปแล้ว ท้องฟ้าย่อมจะแจ่มใสสวยงามเสมอน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.
Wednesday, 24 October 2018
มุสลิมนั้นจะไม่ประสบภัย ป่วยไข้ กังวล เศร้าโศก และอันตรายใดๆ แม้เพียงแค่หนามตำ เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงชำระบาปแก่เขาด้วยภัยนั้นๆ
หะดีษ เล่าจาก อบูฮุรอยเราะห์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
" มุสลิมนั้นจะไม่ประสบภัย ป่วยไข้ กังวล เศร้าโศก และอันตรายใดๆ แม้เพียงแค่หนามตำ เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงชำระบาปแก่เขาด้วยภัยนั้นๆ "
บุคอรี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีได้สอนพวกเราให้รู้ว่า สำหรับผู้ศรัทธานั้น ทุกบททดสอบคือความเมตตาที่เขาจะได้รับการตอบแทนจากอัลลอฮ. เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์หรือความสุข ใครที่ผ่านบททดสอบไปได้เขาคือผู้มีความอดทน อดทนจากสิ่งเย้ายวนและไม่หลงระเริงในเวลาที่พบกับความสุข หรืออดทนกับทุกความเจ็บปวดทั้งร่างกายหรือจิตใจในยามที่ความทุกข์เข้ามาประสบ ผู้ที่ผ่านทั้งสุขและทุกข์ได้ เขาย่อมได้รับการตอบแทนอย่างมากมายจากอัลลอฮ.เสมอ
ก็ฝากพี่น้องไว้ เมื่อพบความสุขก็จงขอบคุณอัลลอฮ. แล้วก็อย่าเพลิดเพลินจนลืมพระองค์ แต่ถ้าหากพบความทุกข์ใดๆ ก็จงอดทน แล้วขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ. เพียงเท่านี้เราก็จะได้รับการตอบแทนที่ดีจากพระองค์ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแล้วน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.....
Monday, 22 October 2018
เมื่อมนุษย์ตายไปการงานต่างๆก็จะถูกตัดขาดจากเขายกเว้นการงานสามประการคือ การบริจาคทานที่มีผลประโยชน์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เศาะดะเกาะฮฺ ญาริยะฮฺ) ความรู้ที่มีผู้ได้รับประโยชน์จากมัน หรือ ลูกที่ดี(ศอลิหฺ)ที่คอยวิงวอนขอดุอาอ์ให้แก่เขา
" เมื่อมนุษย์ตายไปการงานต่างๆก็จะถูกตัดขาดจากเขายกเว้นการงานสามประการคือ
การบริจาคทานที่มีผลประโยชน์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เศาะดะเกาะฮฺ ญาริยะฮฺ)
ความรู้ที่มีผู้ได้รับประโยชน์จากมัน หรือ
ลูกที่ดี(ศอลิหฺ)ที่คอยวิงวอนขอดุอาอ์ให้แก่เขา "
มุสลิม
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า การงานที่ดีที่ผู้ศรัทธาทำไว้จะไม่สูญเปล่า ทุกความดีจะได้รับการตอบแทนจากอัลลอฮ. เสมอ และการตอบแทนที่ไม่ขาดสายแม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้วก็มีอยู่3ประการ คือ บริจาคทรัพย์สินเพื่อทำประโยชน์ต่อสาธารณะ เช่น การสร้างโรงเรียน สร้างมัสยิด สร้างถนนหนทาง สร้างบ่อน้ำ ฯลฯ
ประการต่อมาคือความรู้ที่มีประโยชน์ที่ได้ถ่ายทอดสู่ผู้อื่น ทุกครั้งที่คนที่ได้รับไป ได้ทำประโยชน์จากความรู้นั้น ผลบุญก็จะย้อนกลับคืนมาทุกครั้ง
และประการสุดท้ายคือ การเลี้ยงลูกจนเขาเป็นคนดี(ศอลิฮ.) ทุกครั้งที่ลูกทำความดีหรือลูกขอดุอาอ์ ผลบุญก็จะกลับมาถึงผู้เป็นพ่อแม่ทุกครั้ง
ก็ฝากพี่น้องไว้ การให้ไม่เคยมีคำว่าหมด ยิ่งให้ยิ่งได้ และยิ่งเราให้ในสิ่งที่ดีๆ เราก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีกลับมาเช่นกันน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.....
Sunday, 21 October 2018
แท้จริงอัลลอฮ์ทรงกำหนดความดีและความชั่ว และทรงแจกแจงไว้อย่างกระจ่างทั้งหมดแล้ว ดังนั้นผู้ใดมีเจตนาทำดีประการหนึ่งแม้ยังมิได้ลงมือ กระทำจริงก็ตาม อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้เป็นหนึ่งความดี ที่สมบูรณ์สมนาคุณแก่เขา และหากเขามีเจตนาทำดีพร้อม ลงมือกระทำจริง อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้ เป็น 10 ความดีจนถึง 700 เท่า จนถึงหลายเท่าทวีคูณ และหากเขามีเจตนาทำชั่วประการหนึ่งแต่มิได้ลง มือกระทำจริง อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้เป็นหนึ่งความดีที่สมบูรณ์สมนาคุณแก่เขา และหากเขามีเจตนาทำชั่วประการหนึ่งพร้อมลงมือกระทำด้วย อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้เป็นเพียง หนึ่งความผิด (บาป) เท่านั้น
“ แท้จริงอัลลอฮ์ทรงกำหนดความดีและความชั่ว และทรงแจกแจงไว้อย่างกระจ่างทั้งหมดแล้ว
ดังนั้นผู้ใดมีเจตนาทำดีประการหนึ่งแม้ยังมิได้ลงมือ กระทำจริงก็ตาม อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้เป็นหนึ่งความดี ที่สมบูรณ์สมนาคุณแก่เขา
และหากเขามีเจตนาทำดีพร้อม ลงมือกระทำจริง อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้ เป็น 10 ความดีจนถึง 700 เท่า จนถึงหลายเท่าทวีคูณ
และหากเขามีเจตนาทำชั่วประการหนึ่งแต่มิได้ลง มือกระทำจริง อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้เป็นหนึ่งความดีที่สมบูรณ์สมนาคุณแก่เขา
และหากเขามีเจตนาทำชั่วประการหนึ่งพร้อมลงมือกระทำด้วย อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้เป็นเพียง หนึ่งความผิด (บาป) เท่านั้น ”
บุคอรี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า การทำความดีแม้ไม่มีใครเห็น แต่อัลลอฮ.ทรงเห็น และเช่นกันการทำความชั่วแม้ไม่มีใครเห็น แต่อัลลอฮ.ทรงเห็นเช่นกัน การทำความดีแม้แค่คิด แต่ยังไม่ลงมือทำ ก็ได้หนึ่งผลบุญแล้ว และถ้าลงมือทำด้วยก็จะได้ตั้งแต่สิบผลบุญ จนถึงเจ็ดร้อยเท่า นี่คือการตอบแทนจากอัลลอฮ. ส่วนความชั่ว ถ้าแค่คิด แต่ไม่ลงมือทำ เขาจะได้รับหนึ่งผลบุญจากการไม่ทำ แต่ถ้าเขาลงมือทำความชั่ว ก็จะนับเป็นหนึ่งความชั่วที่เขาทำเท่านั้น นี่คือความเมตตาของอัลลอฮ. ก็ฝากพี่น้องไว้ว่าความดีแม้แต่คิดก็ได้ผลบุญ ส่วนใครจะเห็นหรือไม่ก็ไม่ผลใดๆ เพราะผู้ที่จะตอบแทนให้กับเรา ทรงมองเราอยู่ตลอดเวลาน่ะครับ อินชาอัลลอฮ. จากสามี
Saturday, 20 October 2018
“ผู้ใดปลดความทุกข์ยากดุนยาจากผู้ศรัทธาหนึ่งอย่าง อัลลอฮฺจะทรงปลดความทุกข์ยากของวันกิยามะฮฺหนึ่งอย่างแก่เขา และผู้ใดที่ผ่อนปรนหนี้แก่คนที่ลำบากจริงๆ อัลลอฮฺจะทรงผ่อนปรนให้ความง่ายดายแก่เขาในดุนยาและอาคิเราะฮฺ และผู้ใดปกปิดความลับของมุสลิมคนหนึ่ง อัลลอฮฺจะทรงปกปิดความลับของเขาในดุนยาและในอาคิเราะฮฺ อัลลอฮฺนั้นจะทรงช่วยเหลือบ่าวของพระองค์เสมอ ตราบใดที่บ่าวให้ความช่วยเหลือต่อมิตรของเขา
“ผู้ใดปลดความทุกข์ยากดุนยาจากผู้ศรัทธาหนึ่งอย่าง อัลลอฮฺจะทรงปลดความทุกข์ยากของวันกิยามะฮฺหนึ่งอย่างแก่เขา และผู้ใดที่ผ่อนปรนหนี้แก่คนที่ลำบากจริงๆ อัลลอฮฺจะทรงผ่อนปรนให้ความง่ายดายแก่เขาในดุนยาและอาคิเราะฮฺ และผู้ใดปกปิดความลับของมุสลิมคนหนึ่ง อัลลอฮฺจะทรงปกปิดความลับของเขาในดุนยาและในอาคิเราะฮฺ อัลลอฮฺนั้นจะทรงช่วยเหลือบ่าวของพระองค์เสมอ ตราบใดที่บ่าวให้ความช่วยเหลือต่อมิตรของเขา ”
บุคอรี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนให้เรารู้ว่า ตัวเราเองจะต้องรักพี่น้องผู้ศรัทธาด้วยกันเสียก่อน ความรักแบบเดียวกันจากพี่น้องผู้ศรัทธาก็จะกลับมาหาเรา และยังได้รับการข่วยเหลือจากอัลลอฮ.อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ ช่วยปลดเปลื้องหนี้สิน หรือแม้แต่การปกปิดความลับของพี่น้อง พระองค์ก็จะทรงช่วยเหลือเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเช่นกัน
ก็ฝากพี่น้องไว้ว่าเมื่อเรารักพี่น้องผู้ศรัทธา เหมือนที่เรารักตัวเราเอง ความศรัทธาของเราก็จะสมบูรณ์ และเมื่อใดที่มีผู้ที่รักเราด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮ. จงรักษาเขาผู้นั้นให้ดีเถิด เพราะน้อยมากที่จะเจอคนเช่นนั้น และไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นนั้นได้ด้วยน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.....จากคุณสามี
Friday, 19 October 2018
พวกท่านรู้หรือไม่ว่า ใครคือคนล้มละลาย?
" พวกท่านรู้หรือไม่ว่า ใครคือคนล้มละลาย? "
พวกเขาตอบว่า ผู้ที่ล้มละลายในหมู่พวกเรา คือผู้ที่ไม่มีเงินและไม่มีทรัพย์สิน
ดังนั้นท่านนบีได้กล่าวว่า
" ผู้ที่ล้มละลายจากประชาชาติของฉันก็-คือ ในวันกิยามะฮ์ เขาจะมาด้วยการมี การละหมาด การถือศีลอด และการออกซะกาต แต่เขาเคยด่าคนนั้น เคยกล่าวหาคนนี้ เคยบริโภคทรัพย์สินของคนนั้น(โดยมิชอบ) เคยนองเลือดกับคนนี้ และเคยทุบตีคนนั้น ดังนั้นผู้ล้มละลายก็นั่งลง แล้วบรรดาความดีงามของเขาก็ถูกนำไปให้กับค-นนั้น และบรรดาความดีงามของเขาก็ถูกนำมาให้คนนี้ แล้วถ้าหากบรรดาความดีของเขาหมดก่อนความผิ-ดต่างๆ จะถูกชดใช้ ความผิดต่างๆ ของพวกเขาก็จะถูกโยนลงมาบนเขา(ให้แบกรับภา-ระไว้แทน) หลังจากนั้นเขาก็ถูกโยนลงในนรก"
มุสลิม
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า ผู้ที่ขาดทุนและล้มละลายในวันกิยามะห์ คือผู้ที่ปฏิบัติศาสนกิจครบทั้งหมด ไม่ว่าการละหมาด ถือศีลอด ออกซะกาต แม้แต่ไปทำฮัจญ์ แต่ว่าเขากลับไปละเมิดผู้อื่น ไม่ว่าทางวาจา หรือการกระทำ เช่นทางวาจา ก็คือการนินทาว่าร้าย การด่าทอให้เสียหาย ส่วนการกระทำคือการฉ้อโกง หลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์ หรือแม้แต่การทพร้ายร่างกาย ไปจนถึงการหลั่งเลือดในการฆ่า ดังนั้นความดีของพวกเขาจะถูกนำไปชดใช้ให้กับผู้ที่ถูกละเมิดจนเขาไม่เหลือความดีอะไรเลยในวันพิพากษา นี่แหละคือผู้ที่ขาดทุนและล้มละลายในอิสลาม
ก็ฝากพี่น้องไว้ว่าอย่าได้ละเมิดต่อกันและกันเลย ทั้งเรื่องทางวาจาหรือการกระทำ แล้วเราจะไม่พบกับหายนะของการล้มละลายและการขาดทุนน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.
ไม่ว่าชนกลุ่มใดที่ได้รวมตัวกันเพื่อทำซิกรุลลอฮฺ (รำลึกถึงอัลลอฮ.) ณ พวกเขาเหล่านั้น จะมีมลาอิกะฮฺมาห้อมล้อมแสดงความยินดี มาให้ความเมตตา และมาให้ความสุขสงบ
“ ไม่ว่าชนกลุ่มใดที่ได้รวมตัวกันเพื่อทำซิกรุลลอฮฺ (รำลึกถึงอัลลอฮ.) ณ พวกเขาเหล่านั้น จะมีมลาอิกะฮฺมาห้อมล้อมแสดงความยินดี มาให้ความเมตตา และมาให้ความสุขสงบ ”
มุสลิม
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า อัลลอฮ.จะไม่ทรงทอดทิ้งบ่าวที่รำลึกถึงพระองค์ พระองค์จะทรงข่วยเหลือ เยียวยา และบรรเทาความทุกข์ให้กับพวกเขา ด้วยกับความเมตตาที่มากมายของพระองค์ และพระองค์จะทำให้หัวใจของเขาพบกับความสุข ความสงบ เปรียบเทียบได้กับผู้ที่ยังมีชีวิต ส่วนผู้ที่ไม่รำลึกถึงพระองค์นั้น เทียบได้กับผู้ที่ได้ตายไปแล้ว เพราะหัวใจของเขาขาดหายไปจากการรำลึกถึงพระองค์ และเขาจะไม่พบกับทางออกของชีวิต
ก็ฝากถึงพี่น้องไว้ว่าการรำลึกถึงอัลลอฮ. นอกจากจะเป็นการประกอบศาสนกิจ(อิบาดะห์) อย่างหนึ่งแล้ว ยังทำให้เราได้รับผลบุญ และได้พบกับความสุขความสงบในหัวใจ และพบกับทางออกของชีวิตอีกด้วยน่ะครับ อินชาอัลลอฮ....
สวรรค์ในบ้าน รั้วรักอิสลาม TMTV (ครูอาลี เข้ารับอิสลาม) วันที่ 25 มี.ค.60 Ep9
Thursday, 18 October 2018
รายการ " เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน We're One Big Family " EP.14 ตอนประวัติครูอาลี ( คุณ สรรเสริญ ปฏิมาลิขิต )
ผู้ที่ชำนาญในการอ่านอัลกุรอานนั้นจะอยู่ร่วมกับมะลาอิกะฮฺ ผู้จดบันทึกอีกทั้งมีเกียรติ และผู้ที่อ่านอัลกุรอานอย่างตะกุกตะกัก (ไม่คล่อง) แต่เขาก็พยามยามอ่าน เขาจะได้สองผลบุญ
หะดีษ เล่าจาก อาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ว่า ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ ผู้ที่ชำนาญในการอ่านอัลกุรอานนั้นจะอยู่ร่วมกับมะลาอิกะฮฺ ผู้จดบันทึกอีกทั้งมีเกียรติ และผู้ที่อ่านอัลกุรอานอย่างตะกุกตะกัก (ไม่คล่อง) แต่เขาก็พยามยามอ่าน เขาจะได้สองผลบุญ ”
บุคอรี
จากหะดีษบทนี้ท่านนบีสอนพวกเราให้รู้ว่า อัลกุรอานเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเหลือให้ผู้ศรัทธา ได้ผ่านพ้นความยากลำบากในโลกแห่งสุสานและในวันพิพากษา ผู้ที่อ่านได้อย่างชำนาญและคล่อง เขาจะได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับมะลาอิกะห์ และผู้ที่อ่านตะกุกตะกัก ไม่ค่อยคล่อง เขาจะได้รับผลบุญสองเท่า จากความพยายามของเขา ส่วนผู้ที่ขาดทุนที่สุด คือผู้ที่มีโอกาสในการอ่านอัลกุรอาน แต่เขาละทิ้งโอกาสนั้น และบรรดาผู้ที่ไม่ยอมเรัยนรู้ที่จะอ่านอัลกุรอาน ส่วนคนที่หันหลังให้อัลกุรอานนั้น ยิ่งหนักหนาสาหัส เพราะเขาจะได้รับโทษหนักในวันพิพากษา
ก็ฝากพี่น้องว่า อัลกุรอานจะเป็นเพื่อนเราทั้งในสุสานและในวันพิพากษา ในขณะที่ไม่มีใครจะช่วยเหลือเราได้เลย อย่าได้ละทิ้งโอกาสในการศึกษาเรียนรู้อัลกุรอานกันเลยน่ะครับ อินชาอัลลอฮ.